28 กรกฎาคม, 2552

ตลาดน้ำ 4 ภาค

"ทฤษฏีการหนี"
เมื่อปล่อยผู้หญิงจิตตกกับอกหักอยู่ด้วยกัน....พวกเธอจะหนีไปพร้อมกัน
เปิดตัวเนื้อเรื่องอย่างอินเทรนด์ตามสไตล์หนังกาลิเลโอ

พี่ปอนด์...............
สาวร่างเล็กประจำออฟฟิศที่โชกโชนประสบการณ์การทำงานแต่ด้อยประสบการณ์ความรักกับอาการจิตตกที่พยายามหาเหตุผลด้วยคำถามว่า..."ทำไม"

โบว์...................
สาวมาดมั่นกับนิสัยกวนโอ๊ยตามแบบฉบับสาวสมัยใหม่หัวใจต๊ะติ๊งโหน่ง เมื่อความรักไม่ได้ผ่านเข้ามาทักทายและจุดหมายปลายทางไม่ได้มีเธอ คำว่า "เสียเซลฟ์" ยังดูน้อยเกินไปเมื่อคำว่าอกหักมาอยู่ตรงหน้า
9.00 น.

โตโยต้ารุ่นเก๋าที่เก่าตามตัว มารับตามเวลานัดหมายแบบตรงเวลาพอดีเป๊ะ ฉันเองผู้ไม่คุ้นเคยกับการต้องตื่นเช้าในวันอาทิตย์แบบนี้ เลยต้องขอตัวช่วย เช่น มอคค่าเย็นๆสักแก้ว กระตุ้นประสาทตาให้ตื่นตามตัว ขณะที่เจ้ารถคู่ใจก็ทะยานมุ่งหน้าไปยังถนนเส้นบางนา
"เฮ้ย รถฮีทว่ะโบว์"
ประโยคบอกเล่าที่ทำเอากร่อยตั้งแต่ยังไม่ทันพ้นถนนหนทางที่เรียกว่า...แถวบ้าน...สักเท่าไร
"อ้าว ยังไม่ได้เช็ครถก่อนออกมาเหรอ"
"ก็ดูแล้วนะ ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ" พี่สาวมาดมั่นผู้เชี่ยวชาญการเปิดหม้อน้ำก็โชว์สเตปการเปิดหม้อน้ำให้ดูเป็นบุญตา

และยังไม่ทันขาดคำกับการกลัวรถจะฮีทเป็นครั้งที่ 2

ปิ่นเกล้า...........
ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เราจอดแวะอีกครั้งแบบไม่ได้ตั้งใจ

"เราไปรถทัวร์กันดีป่ะ" ฉันเสนอความเห็นแบบอีกฝ่ายไม่ได้ร้องขอ ไม่ได้กลัวว่าพี่สาวจะเหนื่อยกับการขับรถไปพัทยาแบบเช้า-เย็นกลับ แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เมื่อคาดคะเนจากสภาพรถ

"เอาไงดีอ่ะ จอดรถที่ห้างก่อนมั้ย แล้วย้อนไปสายใต้ใหม่กัน" อีกฝ่ายเริ่มคล้อยตาม

ขณะที่รถยนต์ที่ผ่านไปมาก็ตะโกนถามอาการเป็นระยะๆ พร้อมด้วยไทยมุงที่ไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากยืนให้กำลังใจสองสาวอยู่ห่างๆ

"นั่นๆ ช่างผ่านมาพอดีเลย" พี่วินมอเตอร์ไซค์หนึ่งในไทยมุงเริ่มมีประโยชน์กับเค้าบ้างแล้ว พี่แกซึ่งรู้จักกับช่างซ่อมเครื่องที่บังเอิญขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี

จัดการเติมน้ำ สาดน้ำ กับรถอยู่พักใหญ่พร้มอะไหล่หนึ่งชิ้นที่คิดว่าไม่มีประโยชน์เสียแล้ว "วาล์ว" จึงถูกช่าง 300 แกะ/แงะ/และดึงมันออกมา

"แบบนี้จะไปถึงพัทยามั้ยค่ะ" พี่ปอนด์ถามช่างด้วยความกังวล
"โอ๊ย เนี้ยหายแล้ว อยากไปไหนก็ไป"
"..."
"..."
"..."

แล้วพี่สาว ก็จ่ายค่าเสียเวลาให้น้าแกไป 300 บาท นั่นจึงเป็นที่มาของช่าง 300

เหมือนฟ้าลงโทษให้ดีใจได้ไม่ทันไรกับการขับรถสภาพอย่างที่เห็นมาจนถึงพัทยา ครั้งที่3 กับการจอดข้างทางอีกครั้ง เริ่มประทับใจกับการมีน้ำใจไมตรีของเพื่อนร่วมโลก อันมีนามว่า "สยาม" แห่งนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าเราสองคนดูเงอะงะ จนต้องมาให้ความช่วยเหลือหรือเพราะความงามและเสน่ห์ของสองสาว น้ำใจไมตรีจึงมีตลอดการเดินทางแบบเรี่ยราดเต็มพื้นถนน เอ๊ย !!!!!! ไม่ใช่ขี้หมา

ถึงแล้วตลาดน้ำ 4 ภาค และอีกครั้งกับฮีทครั้งที่ 4

แต่ช่างมัน....ปล่อยเจ้าออสก้าให้พักกันเต็มๆสักครั้งแบบไม่ไยดีเพราะสองสาว ลัลล้ากับการจะไปถ่ายรูป รวบรัดตัดความข้ามขั้นตอนการแวะพักทักทายเพื่อนอีกคนที่สิงสถิตอยู่ที่นี่ ด้วยการโผล่มายังตลาดน้ำเลย แบบว่าถ้าเล่าละเอียดมากคงอ่านกันไม่จบวัน ดูรูปกันเต็มๆตา

ถ่ายรูปจนคิดว่าทุกซอกทุกมุมกันอย่างดีแล้ว ก็เลยคิดว่าจะไปเดินชิลด์แถวหาดจอมเทียนแบบอารมณ์ดูพระอาทิตย์ตกดิน ไม่ใชสิ ต้องตกน้ำทะเลตะหากล่ะ

ปรากฎว่า....... ฝนตกห่าใหญ่

อืมมมมมมมมมมมมมมมม

รถฮีท..........อีกแล้ว

เป็นครั้งที่ 5 และท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เจ้าออสก้างอแงทำท่าว่าไม่อยากกลับกรุงเทพ เดือดร้อนพลเมืองดีที่ช่วยมาดูอาการให้ (แบบนับครั้งไม่ถ้วน)

เริ่มอาการจิตตกแทนอกหักไปชั่วคราว แบบว่าถ้ามารถทัวร์จะดีกว่ามั้ย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังฝืนเจ้าออสก้าแบบทุลักทุเลมาได้ตลอดทาง แม้สถานการณ์จะเลวร้ายยังไงแต่สองสาวที่อยากจะหนีปัญหา (แต่ดันมาเจอปัญหา) ก็ไม่ได้เครียดหรือออกอาการจิตตกอย่างที่เล่าเท่าไรหรอก ออกจะขำๆ ฮาๆ ด้วยซ้ำ

"พวกตูมาลำบาก ทำแมวอะไรกันที่นี่ฟร่ะ"

“แม่พาออสก้ามาเที่ยวนะลูก"
พี่ปอนด์ลูบพวงมาลัยเบาๆเสมือนออสก้าเป็นหมาตัวน้อยๆ และถ้าออสก้ามันพูดได้มันคงจะพูดว่า

"หนูไม่ได้อยากมาตั้งแต่แรกแล้วนะ ออกอาการตั้งแต่ปิ่นเกล้าซะขนาดนั้น" ฉันสบทบ

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

นั่งขำตลอดทาง จนอดคิดไม่ได้ว่าสะระแหน่ที่อยู่ในลาบหมูเมื่อมื้อเที่ยงวันนั้น มันคือ "ใบกัญชา"

ขนมจาก ขนมหม้อแกง และข้าวหลามกลายเป็นของฝากจากทุกๆภาคจนแยกไม่ออก ว่าภาคไหนควรซื้อของฝากอะไรดี เพราะก็มีอยู่แทบทุกจังหวัด แต่ที่แน่ๆส้มโอที่นครปฐมคงไม่หวานเหมือนอย่างเคยแล้วล่ะ (แอบส่วนตัวนิดนึง)

ฝนยังไม่ยอมหยุดตก....

มาทะเลคราวนี้ยังไม่ได้โดนน้ำทะเล และเหยียบย่ำทรายเลยซักนิด ได้แต่ชมวิว ชมคลื่นอยู่ห่างๆบนรถเท่านั้น จากหาดจอมเทียน พัทยา บางแสน นี่ถ้าไม่ติดว่าฝนตก ตอนนี้ยังอาจโต๋เต๋อยู่ริมหาด ณ ที่ใดที่หนึ่งที่กล่าวมาก็ได้

ท้องเริ่มร้องมื้อเย็นเริ่มโหยหา และไม่น่าเชื่อว่าขับมาตลอดสองข้างทาง ไม่มีร้านข้าวต้มกุ๊ยให้แวะเลยซักร้าน ขับมาเรื่อย จนถึงม.บูรพา แบบว่า.........เอาว่ะ ร้านไหนนักศึกษานั่งเยอะแสดง่วาคงอร่อย ไม่ก็ราคาถูก เลยตกลงปลงใจไปกับร้านข้าวต้มโอบะ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกับมหาลัยแถวนั้น

ถ้าคิดว่าหนังเรื่องนี้จบแบบ Happy ล่ะก็ผิดถนัด เจ้าออสก้ายังคงเรียกร้องความสนใจอีกเช่นเคย

ฮีทรอบที่ 6

กับท้องฟ้าที่มืดสนิทแถวย่านบางนา อีกนิดเดียวเท่านั้นที่เราจะถึงสถานที่ที่เรียกว่า "บ้าน" เจ้าออสก้ายังฮีทได้อย่างสม่ำเสมอดีแท้

ขอบคุณความเจริญ...
ที่ยังคงมีให้เห็นอยู่ตลอดสองข้างทาง ปั๊มน้ำมันบางจากจุดที่สว่างไสวที่สุด ณ บริเวณที่เต็มไปด้วยดงอุตสาหกรรมและรถสิบล้อ โอย !!! น่ากลัวสุดๆ แอบถ่ายวิดิโอมาเป็นระยะๆ แต่ขอเอาชอตสุดท้ายที่คิดว่าฮาสุดมาให้ดูแล้วกัน ก่อนการกลับบ้านแบบสบายอารมณ์ พร้อมปรับตัวให้เข้าโหมดมนุษย์กินเงินเดือนอีกครั้ง

http://www.youtube.com/watch?v=pd6r1JnPxTA
(ฝากไฟล์ไว้ใน Youtube ถ้าที่ทำงานบางคนบล็อก ไปเปิดดูที่บ้านแล้วกันนะ อิอิ)

5 ความคิดเห็น:

  1. รถฮีทบ่อยได้เปิดฝาสูบแน่เพราะน่าจะโก่งแล้วน้อง....

    ตอบลบ
  2. สวยดี ว่างๆจะไปด้วยนะ ตอนนี้ประสาทจะเสียเรื่องงานขอเคลียก่อน

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

    ตอบลบ
  4. อาการดีขึ้นยังได้ไปเที่ยวมา
    ถ้ายังสงสัยต้องไปให้คุณหมอดามอกซะแล้ว
    ฝากแนะนำเจ้าของรถให้ไปเรียนช่างยนต์ได้แล้ว
    ฮีทบ่อยเกิ้น

    ตอบลบ