22 สิงหาคม, 2552

แก๊งค์สาวพาเสียวเที่ยว Dream world

ทริปส่งท้ายก่อนที่พี่สาวจิตตกจะบินลัดฟ้าข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปแสวงหาความรู้ยังประเทศนอก อันมีนามว่า “ออสเตรเลีย” สมาชิก สาว-สาว-สาว เลยอยากแอ๊บเด็กกลับไปใช้ชีวิตโลดโผนอย่างอดีตกันอีกครั้ง ขอตั้งชื่อทริปการมา Dream world ครั้งนี้ว่า “แก๊งค์สาวพาเสียวเที่ยว Dream world” ชื่อทริปเสี่ยวอีกแล้วไงล่ะ

พาพี่สาวไปเสียวครั้งนี้ สนุกกว่าการมากับเพื่อนคนอื่นเป็นไหนๆ ยิ่งใครกลัว เรายิ่งชอบแกล้ง แต่ใจก็แอบกลัวเหมือนกันว่า เกิดพี่สาวหัวใจวายตายขึ้นมาจะทำยังไง อิอิ
(ลิงค์วิดิโอ YOUTUBE : พิธีกรจำเป็นสองสาว)

มาถึงรังสิตคลองต้นๆ ด้วยเวลาเกือบเที่ยง สมาชิกเลยฝากท้องไว้กับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือข้างทางที่ขึ้นชื่อ (ไม่รู้ว่าร้านไหนดัง เพราะก็เห็นคนแน่นทุกร้าน) รสชาติจัดจ้านตามคำเรียกร้องสมเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือย่านรังสิตจริงๆ ไม่รอช้า รีบกินรีบไป เพราะคาดว่าวันนี้คนคงเยอะน่าดูและก็เป็นดั่งคาด เด็กนักเรียนยกโขยงมาเป็นคณะทัศนศึกษากันเป็นแถว โอยยยยยยย งานนี้ต่อคิวย๊าว ยาววววว แน่ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้ตั้งใจมาเล่นเครื่องเล่นแต่เน้นงานถ่ายรูปมากกว่า

สุดท้าย...จบด้วยการซื้อตั๋วแบบวีซ่า (ไหนว่าไม่เน้นเครื่องเล่นไง) นี่มันไม่จำกัดเครื่องเล่นและจำนวนเที่ยวเลยนะ ฮ่าๆๆๆๆ ฟิตเปรี๊ยะแบบไม่ดูสภาพร่างกายและเวลาที่ไม่เอื้ออำนวย

ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง !!!! ยังไม่ได้แตะเครื่องเล่นเลยซักชิ้น มัวแต่โพสท่า ฮากระจาย วิ่งพล่านท่ามกลางแสงแดดแบบ walk rally เหงื่อโทรม หน้ามัน แต่ฉันก็ยังโพสท่า...สู้ตาย

เห็นแถวที่ยาวเป็นหางว่าวแล้วอ่อนแรงกว่าจะได้เล่นก็ต้องรอ ร๊อ รอ แต่ก็คิดซะว่าซ้อมมือ ซ้อมใจก่อนไปดิสนีย์แลนด์ แล้วกัน (ว่าแล้ว...ใครอยากไปฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์กันบ้างยกมือขึ้น !!!)

เครื่องเล่นที่ไปจับจองนั้นนับว่ามีการซักซ้อมและจัดเตรียมที่นั่งมาอย่างดี เพื่อให้ตากล้องอย่างเราๆสามารถถ่ายและเก็บภาพบรรยากาศวินาทีระทึกแบบติดหน้าเพื่อนฝูงกันทุก Shot และที่สำคัญพวกเราจะเล่นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวสลับกับเครื่องเล่นที่ชิลด์ไปเรื่อยๆ ให้หัวใจและกล่องเสียงได้พักหายใจ หายคอ กันบ้างเป็นระยะๆ


สกายโคสเตอร์
กับวินาทีระทึก เพราะกล้องวิดิโอที่ถ่ายแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวมาก่อนหน้านี้ ตอนแรกก็อุ่นใจ เพราะมีสายคล้องคออยู่แบบว่าเกิดมือไม้อ่อน จับกล้องไม่อยู่ก็ยังมีสายคล้องคอ ถ่ายไปได้ไม่ถึงนาที จุดพีคสุดของเครื่องเล่นที่กระชากอย่างแรง “สายกล้องขาด” โอวววว แม่จ้าวววว มือที่อ่อนระทวยกระชับกล้องคู่ใจให้แน่นขึ้น นี่ความอยู่รอดของกล้องจะต้องพึ่งมือขวาเพียงมือเดียวหรือนี่ จับกล้องแน่นที่สุดในชีวิตที่เคยเป็นมา เกิดหลุดมือไปไม่เพียงแต่จะเสียกล้องเท่านั้น อาจกระเด็นไปโดนใครต่อใครข้างล่างเอาได้ เจี๊ยกกกกกกกกก...และหลังจากนั้น ความกลัวที่เกิดจากเครื่องเล่นก็หายไปในบัดดล เพราะใจจดจ่ออยู่ที่มือขวากับกล้องวิดิโอคู่ใจไปเสียแล้ว

(ลิงค์วิดิโอ YOUTUBE : รถไฟเหาะกับสายกล้องที่หายไป)

พักเหนื่อยด้วยมะม่วงน้ำแข็งใส อร่อยเย็นชื่นใจแต่กระหายน้ำ และเดินซื้อของเล็กๆน้อยๆ เพื่อฆ่าเวลาตกใจเมื่อครู่ ก่อนที่จะเดินหน้าตะลุยอวกาศกันอีกครั้ง เร่งทำเวลากับจำนวนเครื่องเล่นให้มากที่สุด (เท่าที่จะทำได้)

เกิดมาใช้ชีวิตบนโลกนี้ ยาวนาน 26 ปี ก็พึ่งจะรู้ว่าตัวเองเป็นโรคกลัวความมืดก็วันนี้แหละ เล่นเครื่องเล่นมาสารพัดไม่ยักกะกลัว กลับกลัวบ้านผีสิง Auto dynamic ซะงั้น !!! ทำเอาเพื่อนขำกันยกใหญ่ กับท่าเดินย่อสลับย่อง นี่ถ้าหมอบคลานได้จะทำแล้วนะ ก็คนมันจินตนาการกว้างไกล ได้ยินอะไรนิดหน่อยก็ขวัญกระเจิง น่าขายหน้าจริงๆ หมวยยากูซ่า เฮ้ออออออออ

ฟ้าเริ่มมืด บรรยากาศเริ่มสลัว ผู้คนต่างทยอยเดินทางกลับ แต่สาว-สาว-สาว ยังสนุกกับเครื่องเล่นและถ่ายรูปกันอย่างไม่ลดละ จากห้าโมงเย็นกลายเป็นหกโมง หนึ่งทุ่ม และสองทุ่ม ตามลำดับ

เจ้าออสก้าที่คอยหงอยอยู่กลางลานจอดรถคงเซ็ง แอบเอามาปล่อยทิ้งลานจอดรถกลางแดดตั้งแต่เที่ยงกลับออกมาก็มืดค่ำ บรรยากาศสวนสนุกตอนกลางคืนนี่มันโรแมนติคชะมัด หากนึกภาพไม่ออกลองหยิบหนังเกาหลีมาซักเรื่องสองเรื่อง ที่ฉากพระเอกพานางเอกมาเซอร์ไพร์ตอนกลางคืนดูสิ แสงไฟสลัวๆ กับเครื่องเล่นทรงแปลกๆ หาดูได้ง่ายๆซะที่ไหน อืมมมม ซารางเฮโย !!!

อยู่ในสวนสนุกนานมาก นานจนพนักงานข้างในประกาศเตือน (ประกาศไล่นั่นแหละ) ตั้งหลายที พวกเราก็ยังไม่ยอมไป (ต้องใช้น้ำร้อนราด เอ๊ยยยยยย ไม่ใช่แมว) เค้าคงเห็นว่าโดนแก๊งค์บ้าถ่ายรูปเข้าแล้วไง ซึมซับ ซึมซาบ ถ่ายรูปนู่นนี่นั่นมากมาย วิธีการสุดท้ายที่เด็ดสุดๆ ที่พนักงานพึงกระทำได้คือ “ดับไฟ” โอวววว...เท่านั้นแหละ แสงหมดก็จบข่าว ไปที่ไหน ที่นั่นก็มืดสนิท ลองนึกว่าเป็นหนังผีที่ไฟค่อยๆดับไล่ตามหลังดูสิ ( จะหลอนไปไหนเนี่ย) พวกเราเลยตัดสินใจกลับ (ก็ได้ฟร่ะ)

ลากเวลามาจนถึงลานจอดรถก็ยังไม่วาย ขออีกสักหน่อย อิอิ ลานจอดรถขนาดกว้างที่มีเจ้าออสก้าเพียงคันเดียว อืมน่าสงสารจริงๆ

อยากหยุดเวลา ความสุข ความสนุก ไว้ตรงนี้ ณ ที่ที่เราอยู่ด้วยกัน แม้จะเคยมาดรีมเวิลด์หลายต่อหลายครั้ง แต่จะมีครั้งไหนนะที่มีความสุขปนเศร้าและเหงาได้ขนาดนี้ หลังจากนี้ไปพี่ปอนด์ก็จะต้องใช้ชีวิตต่างบ้านต่างเมือง และพวกเราก็คงจะต้องห่างกัน นี่ไม่ใช่จุดจบของการลาจาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพระหว่างเรา

“บางทีเวลาคนสนุกมีอารมณ์เศร้า มันก็เหงาโครตๆเลยนะ”
(ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://warawan.multiply.com/photos/album/12/2009.08.22_Dream_World)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น