20 ธันวาคม, 2552

อัมพวา เมื่อครั้งหนึ่งยังมีหิ่งห้อย !!


เด็กน้อยได้ยินเรื่องราวกล่าวขานมานาน หากใครได้จับหิ่งห้อยมาเก็บเอาไว้ใต้หมอน
เปิดตัวด้วยเพลง “หิ่งห้อย “ ของศิลปินรุ่นเดอะนามว่า” เฉลียง “ ซะจะได้เข้ากับบรรยากาศ

หลังจากห่างหายจากการเที่ยวกับพี่สาวสุดสวยพร้อมเจ้า ออสก้า คันนี้ร่วม 4 เดือน เปิดทริปการกลับบ้านแบบไทย ๆ ด้วยการลุยตลาดอัมพวาที่ว่าครั้งหนึ่งยังมีหิ่งห้อย ว่ากันว่าทรัพยากรหิ่งห้อยเริ่มลดน้อยถอยลงอย่างน่าใจหาย จะไปยากอะไรนักหนาก็เอาหลอดไฟ LED มาติดที่ต้นลำพูเอาสิ อยากได้แยะแค่ไหน เกาะกลุ่มกันยังไง ก็ติดเอาตามใจชอบ นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ จะไปรู้เรื่องอะไรล่ะ ว่าไหนแท้ไหนเทียม ฮ่า ๆ ๆ นังหมวยยากูซ่าคิดแผนชั่วร้ายอีกแล้ว มาดูบรรยากาศแบบไม่ต้องพล่ามมากให้เสียเวลาคนพิมพ์ ....... !


อัธยาศัยของแม่ค้าที่ดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนตามสองข้างทาง
“ ถ้าจะถ่ายรูปก็ช่วยซื้อของด้วยนะคะ “
“ น้องอย่ายืนบังหน้าร้านพี่ได้ไหม “
“ ห้ามถ่ายรูปค่ะ “
“ .......... “

ประโยคห้วน ๆ นานัปการที่ช่างไม่เข้าหูเอาซะเล๊ย แหม !! แม่ค้าแถวนี้ช่างไม่มีความรู้ทางด้านการตลาดเอาซะเลย อิชั้นกำลังจะช่วยโฆษณาร้านแบบไม่ต้องเสียเงินแท้ ๆ นะเนี้ย แม้ว่าสมาชิกที่ตามอ่านบล๊อกข้าพเจ้าจะมีไม่มากมาย แต่ก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลาย ๆ คนมาเที่ยวตามนะยะ ชิ ชะ !! ( อารมณ์งอนแบบสุด ๆ ) เมื่อหลายร้านค้าทำท่าไม่พอใจกับพวกหลังเลนท์อย่างพวกเราที่อาศัยอาหารตาแทนอาหารจริง ๆ


“ โปสการ์ดแทนความคิดถึง กระดาษหนึ่งใบแต่ความห่วงใยมันมากกว่านั้น !! “

ของฝากยอดฮิตที่นักเดินทางกระเป๋าแห้งอย่างฉันนิยมซื้อเป็นยิ่งนัก ข้อความที่อาจยาวเกิน 1 หน้ากระดาษขนาด 4 × 6 นิ้ว อาศัยความเล็กของขนาดตัวอักษรเข้าว่า กลิ่นไอของความตั้งใจ ความคิดถึงความห่วงใย ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรขนาดเล็กเหล่านั้น ตบท้ายด้วยประโยคฮิต “ ขอให้สนุกกับการเดินทาง “ ฉันเชื่อว่าผู้รับความห่วงใยเหล่านั้นคงตื่นเต้น และ รอคอยการเดินทางของฉันผ่านบล็อกเล็ก ๆ แห่งนี้


“ ปากอ้า หน้างอ คอหัก “ คือคำนิยามของปลาทูถิ่นอัมพวา หน้าตาก็ดูแปลกตามคำบอกกล่าวอย่างนั้นจริง ๆ สินค้าข้างทางมีหรือจะสู้สำบัดสำนวนการเขียนคำโฆษณาของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าได้ เพราะนอกจากจะสะกิดใจ แถมยังได้สินค้าไปอย่างสบายกระเป๋าตังค์


เมื่อพี่น้องสองสาวพร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันจัดจ้านแบบแดงแรงฤทธิ์กันอย่างไม่ได้นัดหมายหวังเอาเสื้อผ้ามาเป็นจุดเด่นของภาพติดกับสีของบรรยากาศไม้เก่า ๆ โทนน้ำตาลเข้ม แล้วพระเจ้าก็เหมือนเป็นใจให้พวกเรามาพบกับเจ้าของร้านอารมณ์ดี ที่เชิญชวนถ่ายรูปภายในร้าน อย่างไม่ต้องเกรงใจ และ เสียตังค์ซักแดงเดียว แต่ด้วยความเป็นมิตรอย่างน่าใจหายครั้งนี้พวกเราก็พร้อมรับอย่างอาย ๆ ด้วยการสั่ง Peppermint Lemon Soda มาคนละแก้ว หลังจากนั้นก็ฝังรากอยู่ร้านนี้นานนับชั่วโมงเลยทีเดียว


ของฝากจากนังหมวย ......
แม้เบี้ยน้อยหอยน้อยงบน้อย แต่ด้วยความกระหายการท่องเที่ยวการมาครั้งนี้จึงมีของฝากติดมือมากเป็นพิเศษ อันนู้นก็ดีอันนี้ก็ใช่ จ่ายกระจายไปกับข้าวของที่หวังจะเป็นของฝาก + ของขวัญวันปีใหม่อาศัยยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ฮ่า ๆ ๆ ๆ


ปิดท้ายการจากลาแบบกองทัพต้องเดินด้วยท้อง อาศัยช่วงชุลมุนเบียดเสียดเล่นเก้าอี้ดนตรีแย่งพื้นที่เล็ก ๆ มานั่งกินอาหารริมทาง สั่งนู้นสั่งนี่ตามประสาคนอยากอาหารไทย แล้วตบท้ายด้วยขนมปังสังขยาล้างปากแบบผู้ดี จบทริปการเดินทางมาอัมพวาแบบไม่ได้ยลหิ่งห้อย เลยอดพิสูจน์ด้วยตาเลยว่า“อัมพวามีหิ่งห้อยจริงหรือไม่“

ครั้งหน้าจะมาพิสูจน์ใหม่ด้วยตัวเอง ...... อยากบอกว่าทริปนี้ หรอยจังฮู้ !!


ดูรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่

http://warawan.multiply.com/photos/album/13/2009.12.19_Amphawa

1 ความคิดเห็น: