31 สิงหาคม, 2550

ทริปนี้...ที่โคราช

กลับมาอีกครั้ง หลังจากหายหน้าหายตาไปนานอัพเดทสถานที่เที่ยวกันหน่อยดีมั้ย อันที่จริงมันก็นานมาแล้วอ่านะ หลังจากที่เหนื่อยกับงานมาเป็นแรมปี ขอผ่อนคลายสมองกับธรรมชาติงามตากับเพื่อนๆที่ออฟฟิศหน่อยเหอะ นั่นก็คือ รีสอร์ทภูสอยดาว ณ โคราช นั่นเอง (เป็นรีสอร์ทของญาติน้องอิง สมาชิกแก๊งค์หรรษา) ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากวันนั้นพวกเราไม่ได้ไปกินเหล้าและตกลงรับปากกันอย่างเมาๆ เวลานัดเป็นจริงเป็นจังทีไรก็อดไปทุกที
“เอ่อ..ออ คือว่าน้องอิงยังไม่ได้ชวนเลยนะคะ ที่จะไปกันนั่นน่ะ มันบ้านอิงนี่ค่ะ”

เริ่มต้นการเดินทางของคืนวันที่ 31.08.2007

สาเหตุก็เนื่องมาจากเครียดไง วันนั้นต่างคนต่างก็มีประชุม เอาว่ะ แมร่ง.งงง เลิกงานแล้วไปกันเลยนี่แหละ จะได้ปลดปล่อยทั้งที นั่งรถตู้ขนาด 10 ที่นั่ง (ก็มีกันเท่านี้แหละ) ออกเดินทางจากตัวเมืองสู่โคราช ถึงที่พักราวๆ 5 ทุ่ม (เหนื่อย เพลีย และกระหาย....เหล้า) ตื่นเต้นกับสิ่งแวดล้อมต่างๆที่รายล้อม “ อุ๊ย โคราช” “อุ๊ยๆๆ นั่นโค” นั่นแหละสไตล์ของพี่เชอร์รี่เค้า

นี่คือสถานที่ที่เราจะนอนกัน มีเตียงทั้งหมด 18 เตียง
ความรู้สึกตอนนั้น ยังกับมาเข้าค่ายรับน้องอย่างนั้นแหละ และเราก็ดันเลือกนอนเตียงด้านบน (เวลาเมาจะปีนขึ้นไปยังไงวะเนี่ย) หลังจากจับจองที่นอนกันเสร็จ ก็เริ่มต้นจัดแจงอาหารมื้อค่ำทันที อาหารของคืนวันนั้นเป็นหมูกะทะ 3 เตา (แย่งกันกินอยู่ 2 เตาปล่อยให้กรูกินอยู่คนเดียว รังเกียจไรกันฟ่ะ)

อันนี้ไม่ใช่เรียกว่าเผา แต่ดูความเมากันเอาเอง
อันที่จริงแล้วเราไม่ได้เช่ารีสอร์ทเพื่อเอาไว้นอน แต่เรามาที่นี่เพื่อหาที่กินเหล้านอกสถานที่เท่านั้นเอง 555 เพราะกว่าจะนอนกันก็เกือบสว่างแล้ว หวังไว้ลึกๆว่า “ตูจาดูพระอาทิตย์ขึ้น” (ช่างไม่เจียมสังขารกันซะจริงๆ) แต่ถึงอย่างนั้นเรากับพี่นุชก็ยังลากสังขารตัวเองจากความง่วง ตอน 7 โมงเช้าเพื่อมาถ่ายรูป เอ่อ...ออ แบบนี้

เค้าเรียกว่าข้อดีของการตื่นก่อนชาวบ้าน ดูสภาพแต่ละคน
กว่าจะปลุกสมาชิกให้ตื่นกันได้แทบตาย หลายคนคงรำคาญเต็มที แต่ก็เอาน่า......นานๆได้มาเที่ยวข้างนอกกันพร้อมหน้าพร้อมตาจะให้เสียเวลากับการนอนได้ไง
“ตื่นๆๆๆ 8 โมงกว่าแล้ว นอนกันอยู่ได้ อยากนอนไปนอนที่กรุงเทพนู้น มานอนอะไรที่นี่ เอาเวลาไปเที่ยวดีกว่า........ตื่นโว้ย....”
นี่แหละประโยคที่ทำให้ทุกคนเซ็ง 555 อ่านะ ก็ต้องออกแนวไซโคกันนิ๊ดนึง ได้อารมณ์แบบพี่ว๊ากดีแท้


มาดูบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกัน มีพื้นที่สำหรับรอบกองไฟด้วย แต่คืนที่มาถึงฝนพึ่งหยุดตกเลยจุดไฟไม่ได้ (น่าเสียดายแท้) และน้องแมวตัวนี้ เค้าว่ามันชอบกินตุ๊กแก !!!! อย่างคืนวันนั้นในปากมันก็มีจิ้กจกด้วยแหละ


ก่อนออกจากรีสอร์ทก็เก็บภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับ..........ต้นงิ้ว (ไม่มีที่จะไปอยู่กันแล้วใช่มั้ยเนี่ย ออฟฟิศนี่ส่อแววกันเห็นๆ) และสังเกตให้ดีผู้ชาย ?! หนึ่งเดียวในทริปนี้....555.....น่าอิจฉาพี่แกมั้ยล่ะ รายล้อมไปด้วยสาวๆหน้าละอ่อนทั้งนั้น (เจ้าตัวคิดในใจ............แมร่ง-เซร็ง-จิต.............)

การเดินทางครั้งต่อไปเริ่มต้นที่เช้าวันที่ 1.08.2007

ไปไร่ทองสมบูรณ์และความมันส์.....เกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้ กิจกรรมสมานฉันท์และแบบทดสอบความกล้า.....ฮา โดยค่าเครื่องเล่นส่วนใหญ่ราคาก็ 150 บาทงานนี้ไม่มีคำว่ากลัว มีแต่คำว่ากรูพลาดดดดดดดดดดดด (เล่นไปแว้ววววว) หนุกหนานมากมายฮ่ะ

สกีบก (LUGE) ภูมิปัญญาชาวบ้านนำมาประยุกต์เป็นรถที่ไม่มีเครื่องยนต์ วิ่งโดยใช้แรงโน้มถ่วมของโลก ปล่อยให้รถวิ่งตามแนวลาดของภูเขา ระยะทาง 650 เมตร ควบคุมความเร็วโดยการใช้เบรคทั้งสองพร้อมกัน แล้วกลับขึ้นมาบนเขาด้วยกระเช้าไฟฟ้า เป็นเครื่องเล่นที่สนุกสนาน ปลอดภัย และไร้มลพิษ

FLYING FOX เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและท้าทาย โดยสวมชุดฮาเน็ตแล้วเกาะกับลวดสลิง แล้วปล่อยจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ คุณจะได้สัมผัสความตื่นเต้นและได้บินเหมือนนก แล้วกลับขึ้นมาบนเขาด้วยกระเช้าไฟฟ้า

หลังจากผ่านศึกมาหนักๆก็ไปผ่อนคลายที่น้ำตกเหวสุวัต ณ เขาใหญ่
งานนี้ก็เก็บภาพสวยๆงามๆ กันไปตามระเบียบ มีพี่หญิงกับพี่แจ๋วลงเล่นน้ำกัน 2 คน ส่วนลูกทีมคอยสังเกตการณ์อยู่บนบกครับ (จริงๆเป็นโรคกลัวน้ำกัน) พยายามจะอินกะธรรมชาติแบบนางเอกมิวสิคกัน กะให้ถ่ายออกมาเป็นธรรมชาติ แต่มีอยู่คนนึง......ปล่อยป้าแกไปเหอะ (สังเกตความโอเวอร์แอคติ้งของเค้า)

กลับเข้าสู่ตัวเมืองที่เรียกว่า กรุงเทพ ด้วยเวลาโพล้เพล้เต็มที แม้จะเพลีย จะเหนื่อยยังไงก็ประทับใจ โอกาสหน้าคงอีกนานโครตตตตตตตตตตตตต กว่าจะรวมตัวกันได้อีกครั้ง

………….ว่าแล้วก็ไปกินเหล้ากันมะ