11 ธันวาคม, 2550

LOVEiS Winter Festival

ก่อนอื่นขอยกบทความที่บรรดาผู้จัดทั้งหลายตาม web board พยายาม build อารมณ์ก่อนที่จะถึงงาน “KTC LOVEiS Winter Festival”

ถ้ายังประทับใจกับคอนเสิร์ตโรแมนติกในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ความสุขและความทรงจำนั้นกำลังกลับมา อีกครั้ง กับหนึ่งในสุดยอดเทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดของเมืองไทย กับความโรแมนติกที่แสนจะอบอุ่น กับบรรยากาศธรรมชาติของขุน เขาใหญ่ พร้อมความประทับใจจากศิลปินที่คุณคิดถึง คอนเสิร์ตแห่งปีที่หลายๆ คนเฝ้ารอ...
อ่านเพิ่มเติม

ต้องบอกว่าอ่านยังไม่ทันจบประโยค ก็มาสะดุดกับคำว่า “เทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดของเมืองไทย” เออแฮะ...ทำไมมันตรงกันข้ามกับความเป็นจริงได้มากขนาดนี้ และอีกหนึ่ง

ผู้จัดงานในครั้งนี้ได้เปิดเผยถึงความพร้อมที่มากกว่าเดิมทั้งในเรื่องของสถานที่ แสง สี เสียง ของงานในปีนี้ว่า “สำหรับในปีนี้เราได้จัดเตรียมสถานที่เป็นอย่างดี เรารดน้ำพรวนดินต้นไม้โดยรอบเพื่อให้คนฟังได้อิ่มทั้งเสียงเพลงและอิ่มกับบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการสร้างห้องน้ำเพิ่มเติม จะมีการให้บริการอาหารที่พอเพียง ส่วนในเรื่องของแสง ปีที่แล้วแค่ย้อมภูเขาทั้งลูกเป็นสีสันต่างๆ คนก็ทึ่งกันแล้ว แต่ในปีนี้ต้องมีงานที่ละเอียดและพิเศษกว่าเดิมครับ...
อ่านเพิ่มเติม

อ่านแล้วมันจี๊ด.ดด..ดด อ่า “ความพร้อมที่มากกว่าเดิม ห้องน้ำและการบริการอาหารที่พอเพียง”


8-9-10 ธันวาคม 2007

เริ่มต้นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว เพื่อซื้อเสบียงสำหรับงานคอนเสริ์ตอันสุดแสนโรแมนติก จำนวนสมาชิกครั้งนี้ 8 ชีวิต กับยานพาหนะ 2 คัน มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ด้วยเส้นทางโทลเวย์ ไปตามถนนพหลโยธิน แต่ยังไม่ทันจะลงโทลเวลย์สุดทาง รถที่นั่งมาเกิดอาการสะอึก...ซะงั้น ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ไปซะแล้ว มีลางบอกเหตุตั้งแต่ยังไม่ทันออกพ้นกรุงเทพ ส่วนอีกคันแรงจัด คาดว่าขณะที่รถหมายเลข 1 กำลังทำการตรวจเช็คเครื่องยนต์อีกรอบ รถหมายเลข 2 ก็มุ่งหน้าไปถึงวังน้อยแล้ว ไกลเกิ้น...นน..นน

จุดนัดพบกันครั้งแรก ที่ปั๊มน้ำมัน JET แต่เนื่องด้วยปั๊มน้ำมันก็มีมากเหลือเกิน ทำให้หากันไม่เจอซักที (ตกลงมัน JET ไหนว่ะเนี่ย..) มุ่งหน้าสู่นครราชสีมา เวลาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง ยังไม่ถึงไหน มารู้ตัวอีกทีก็เกือบจะ 3 โมงกว่าแล้ว รถที่เหมือนจะไม่ติด ตอนนี้ก็เริ่มหนาตามากขึ้น

ตอนนี้ผ่านฟาร์มโชคชัย……………
ผ่าน Outlet Factory……….
ผ่านโรงเรียนนานาชาติ .......................

ว่ากันว่า “การเดินทางความสำคัญใช่อยู่ที่จุดหมาย แต่เป็นประสบการณ์สองข้างทาง” แต่เมื่อไรจะถึงโบนันซ่า ซักทีวะ..กรูเมื่อย

จนถึง 5 โมงกว่า ทางเข้าโบนันซ่า อยู่แค่เอื้อม แต่ขยับได้เท่าเต่าคลาน เหลือบเห็นรถสปร์อตคันแดง 2 คัน “แล้วไง ราคาแพง เครื่องยนต์เร็ว สุดท้ายก็ตามหลังรถพวกกรูอยู่ดี กร๊ากกกกกกก” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คิดจะขับรถแพง แรงดี ตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนนะ 555

สุดท้ายทนสภาพการจราจรไม่ไหว จอดรถข้างทางแล้วเดินเท้าเอา สัมภาระที่เตรียมมาทิ้งไว้หลังรถทั้งหมด เดินไปแต่ตัวหวังไว้ว่า ค่ำๆถ้ารถหายติดจะกลับมาเอาเสบียง (คิดผิดถนัด) ............... 2 กิโล !!!! ………….. หลังจากเดินไปซักระยะเสื้อหนาวที่ใส่อยู่เริ่มถอดออกทีละชิ้น ทีละชิ้น “........... 2 กิโล ...............”ยังวนเวียนอยู่ในหัว นี่มาดูคอนเสิร์ต รึว่า มาเข้าค่ายฝึกทหารกันแน่..

พอไปถึงจุดแลกบัตรหน้าทางเข้า แทบจะเป็นลม
ภูเขาหนึ่งลูกเป็นลานสำหรับจอดรถ อีกหนึ่งอึดใจถัดไปที่เห็นนั่นคือ คลื่นมหาชนขนาดใหญ่ !!!
คนละลานตากว่าหมื่นคน กำลังกระเสือกกระสนจับจองที่นั่ง ที่เห็นอยู่ว่ามันไม่มีที่พอแล้ว กลุ่มสมาชิก 8 ชีวิตแอบแฝงตัวเข้าไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเจอที่ที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือ “ หน้าส้วม ” นั่นเอง เสียตังค์ราคา 1500 มานั่งดูเหมือนฟรีคอนเสริ์ตอย่างนั้น แอบเสียดายตังค์ เสียดายเวลา หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา หวังจะบันทึกภาพสุดเกินบรรยายนี้ แต่ว่าลืมเอาถ่านกล้องมา เซ็ง... ทริปนี้เลยได้แต่ ใช้กล้องมือถือ เป็นผู้ช่วยไปก่อน



อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลง แต่คนกลับมาสมทบเพิ่มมากขึ้น จำได้ว่าฟัง Groove Riders เป็นศิลปินสุดท้ายก่อนถอยทับกลับลงเขา ไม่ไหวแล้ว หนาว หิว และง่วง ไม่อยากนึกสภาพขากลับตอนเช้า (คงแย่ยิ่งกว่าตอนขามา หลายเท่านัก) พอเท่านี้สำหรับ “ความโรแมนติกที่แสนจะอบอุ่น กับบรรยากาศธรรมชาติของขุน เขาใหญ่ พร้อมความประทับใจจากศิลปินที่คุณคิดถึง คอนเสิร์ตแห่งปีที่หลายๆ คนเฝ้ารอ ความพร้อมที่มากกว่าเดิม ห้องน้ำและการบริการอาหารที่พอเพียง” ถ้าเป็น Effectการ์ตูนคงมีเสียง..... ฉึก !!! ..... ปักอยู่กลางหัว โอเค ประชาชนคนฟังเพลงอย่างเราเข้าใจและเห็นใจค่ายท่านเป็นอย่างดี คงมีการคำนวณจำนวนผู้เข้าชมต่อพื้นที่ชมคอนเสริ์ตมาแล้วแต่อาจเกิดการผิดพลาดไป แค่หมื่นคน..!!


ขอบคุณพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่นำทางหาที่พักให้ในเวลาดึกดื่นขนาดนั้น ที่กางเต๊นท์ริมน้ำบรรยากาศดีเกินคาด ในสภาวะแหล่งชุมชนแออัดห่างออกไปไม่ไกล ยังมีสถานที่แบบธรรมชาติหลงเหลือให้พวกเราสิงสถิตซุกหัวนอน รอการเดินทางครั้งต่อไป..... น้ำตก 7 สาวน้อย .....

กว่าจะตื่นและเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทาง ก็จวนจะเที่ยง
จึงลังเลอยู่ว่าจะไปน้ำตก รึว่า ไปชิวอาหารมื้อใหญ่ที่ฟาร์มโชคชัยกันดี ระหว่างทางไปเจอทุ่งทานตะวันก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ขนาดเวลา ณ ตอนนั้นก็ปาเข้าไปเกือบ 3 โมงแล้ว เจ้าดอกทานตะวันก็ยังบานให้เราได้เก็บภาพมาฝากมากมาย



เสียเวลากับการเดินทางที่ตั้งใจ หมายมั่นให้ไปถึงที่พร้อมๆกัน แต่ด้วยคนรู้ทางดันขับช้า (ตามสภาพรถและความยาวช่วงขา)กับคนตามอีกคันที่ใจร้อนเกินตัว กว่าจะหากันเจอ ก็นานอยู่เอาการ ไปถึงน้ำตก 7 สาวน้อย ตั้งท่าจะจับจองพื้นที่นั่ง ไม่ทันจะปูเสื่อ เสียงประกาศของทางเจ้าหน้าที่ดังมาแต่ไกล “ ..............หมดเวลา ซะอย่างนั้น...........” เซ็งกันถ้วนหน้า แต่ก็ยังกระเสือกกระสนกินกับข้าวที่แวะกันมาจนหมด ถึงแม้ว่าจะมีเวลาอยู่ที่น้ำตกแค่ชั่งโมงกว่าๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียเรื่อง เสียเวลา เท่าไร แต่เสียความรู้สึกกับไอ้หมูหันตัวนั้นที่นัชอุตส่าห์ส่งกระแสจิต กฎแห่งแรงดึงดูดถึงพี่ก๊ก (ซึ่งขับรถอยู่อีกคัน) ให้แวะข้างทางเสียตังค์มาโดนปากซัก 1 ตัว ...... รสชาติไม่ได้เรื่อง !! .....

หลังจากเคลื่อนทัพกลับออกมาจากน้ำตก หวังแก้มือกับอาหารมื้อใหญ่ ซักที (ทริปครั้งนี้อยากโดนอาหารเจ๋งๆ บรรยากาศดีๆ แบบให้คุ้มค่าเสียเวลาที่หมดไป) ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก ปรากฎร้านอาหารสไตล์ไหนไม่ทราบได้ เอาเป็นว่าบรรยากาศดีแท้ จึงฝากท้องและความหวังกับอาหารมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงกรุงเทพ อาหารเสิร์ฟเร็วโครต.ตต...ตตต แบบยังไม่ทันหมดจานที่ 1 จานที่ 2 ตามมา แล้วเพียงพริบตา อาหารที่สั่งก็เต็มโต๊ะ สุดยอดกับระบบการจัดการของร้านอาหารนี่จริงๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า “แอบทำไว้ก่อนรึป่าวนั้น” อิ่มสบายท้อง แต่ไม่ค่อยสบายกระเป๋าตังค์ หมดทริปครั้งนี้ด้วยงบประมาณค่าใช้จ่ายเกือบ 3 พันบาท !!


ตื่นเช้ามาวันที่ 10.12.2007

ณ กรุงเทพ ออกเดินทางอีกครั้ง สู่โรงพยาบาลเลิดสิน ไปเยี่ยมชาญ เพื่อนที่เกือบได้ไปทริปที่โบนันซ่า เขาใหญ่ แต่ดันโดนรถชนเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดไปซะก่อน (ไม่รู้ว่าโชคดี รึว่า โชคร้ายกันแน่ ที่ไม่ได้ไป) ถ้าเพื่อนคนไหนยังไม่ได้ไปเยี่ยมชาญ ของฝากติดมือที่คิดว่าเหมาะสม น่าจะเป็นหนังสือโป้ซักเล่ม ไม่ก็เบียร์เย็นๆซักกระป๋อง พี่แกคงอยากน่ะ แต่ถ้างบน้อยไปเยี่ยมเฉยๆก็ได้ เล่าเรื่องฮาๆ ให้แผลที่ผ่าตัดมาได้เคลื่อนไหว เลือดกระซิกๆบ้างเป็นพิธี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น