07 มิถุนายน, 2555
03 มกราคม, 2555
04 ตุลาคม, 2554
เทียนซ้ง
ร้านเป็ดย่างอบน้ำผึ้งในตำนาน
ที่เรียกว่าในตำนานเพราะว่าเป็นร้านดั้งเดิมที่สมัยป๊ากับม้ามาสวีทกันที่นี่
ซึ่งนั่นก็นานพอดู และประวัติอันยาวนานกว่า 60
ปีของร้านเทียนซ้งนี้ก็คงทำให้บรรดานักชิมทั้งหลายต่างรู้จักและคงไม่ต้องสาธยายถึงกรรมวิธีในการปรุงแต่งให้เหนื่อยแต่อย่างใด
แม้ว่าในละแวกนี้ “ถนนดินสอ”มีร้านอาหารมากมายให้ได้ลิ้มลอง
แต่เป็ดย่างหนังกรอบเนื้อนุ่ม
รสชาติกลมกล่อมของร้านเทียนซ้งก็ดักสกัดดาวรุ่งร้านอื่นๆได้เกือบทุกครั้ง นอกจากเมนูข้าวหน้าเป็ดที่ขึ้นชื่อ
ยังมีเมนูแนะนำอีกหลายอย่าง เช่น หมูแดง-หมูกรอบ บะหมี่เป็ด หมูสะเต๊ะ และติ่มซำ
ยังไม่เคยลองอาหารตามสั่งที่แปะไว้ตามข้างผนังเลยซักครั้ง
เพราะแค่เมนูที่ทางร้านแนะนำก็ทำเอาพุงกาง
กระดุมปริจนเกือบจะกระเด็นหลุดออกมาอยู่แล้ว
สเน่ห์ของทางร้านนี้ก็คือ
ไม่ว่าจะผ่านไปนานซักกี่ปี บรรยากาศภายในร้านยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
แม้ว่าจะมีการปรับปรุงให้ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนบ้าง แต่อารมณ์โดยรวมภายในร้านก็ยังคงฉาบไปด้วยความหลังและอดีต
สำหรับหนุ่ม-สาวสมัยใหม่ (ซึ่งก็หมายรวมถึงเราด้วยนี่แหละ)
มักจะนิยมไปแสวงหาร้าน อาหารใหม่ๆ สไตล์ฟิวชั่น จนบ้างครั้งร้านธรรมดาๆที่เปิดมาตั้งแต่สมัย อากง-อาม่า ยังสาว กลับถูกหลงลืม อยากให้ย้อนกลับมาหาอะไรในความเก่าแก่ของอดีตกันบ้าง
เพราะอย่างน้อยความอร่อยก็พิสูจน์ได้จากความเก๋าประสบการณ์ที่ยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้
^___^
23 กันยายน, 2554
เทศกาลสาร์ทเดือนสิบ
เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วซะเหลือเกิน
1 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก จำได้ว่าไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ เทศกาลสาร์ทเดือนสิบ
มาเมื่อปีที่แล้วและยังไม่ทันได้โพสภาพที่ไปรีวิวมา กลับมาดูปฎิทินอีกที เฮ้ย!!!
ปีนึงแล้วหรือนี่ แอบดูสมุดโน๊ตที่จดรวบรวมทริปต่างๆ ในปีที่ผ่านมา
ที่กำลังทยอยเขียนและอัพเดทภาพ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด 13 ทริปพอดิบพอดี ถ้าเปรียบ Blog
เป็นอาหารแล้วล่ะก็ป่านนี้คงดองเค็มจนเปรี้ยวไปแล้วแน่นอน 555
ความสดใหม่ของการเขียน
Blog ย้อนเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเวลา 1
ปีไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยาก ที่ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนั้นเพราะว่าใครจะไปจดจำรายละเอียดที่ผ่านมาได้ทั้งหมดในคืนเดียวเล่า
มันยากพอๆ กันกับ เวลาคุณลืมของที่คุณต้องการหานั่นแหละ แต่ต้องขอบคุณกล้อง DSLR
คู่ใจ ที่ช่วยทำการบันทึกความทรงจำเกือบทั้งหมด 100% เอาไว้ให้
เลยทำให้การเขียน Blog ย้อนหลังไม่ใช่เรื่องยาก
เปรียบเสมือนคนแก่ที่ชอบเอารูปเก่าๆ มานั่งเล่าใหม่ ทีละใบ...ทีละใบ ครั้งนี้ก็เช่นกันกับงานเทศการสาร์ทเดือนสิบและอีก
13 ทริปที่ว่า (ต้องรอดูกันต่อไปว่าเวลาจะเอื้ออำนวยต่อการเขียน Blog หรือไม่)
และทริปใหม่ที่กำลังจะเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอีกยาวเป็นหางว่าว
กำลังเตือนตัวเองว่า รีบปั่น Blog ให้มันจบไวๆ
หรือเที่ยวทั่วไทยให้มันน้อยลงกว่านี้ดี >”<
ในทุกๆ
ปี สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องมางานนี้ให้ได้ทุกครั้ง
เพราะความหลากหลายของอาหารที่หากินได้ยาก และความอร่อย เผ็ด เข้ม
สะใจสไตล์คนใต้อีกเช่นกันเป็นตัวกระตุ้นให้คนที่ได้มางานนี้ติดอกติดใจและเหมือนต้องมนต์ที่ต้องมาทุกครั้ง
ทั้งไตปลาคั่วกลิ้ง แกงเนื้อ ขนมจีนป่า และจำปาดะ
เป็นเมนูยอดฮิตไม่ต่างจากหมูย่างเมืองตรัง ถั่วหรั่ง สะตอและหนางวัว
มีเมนูท้องถิ่นอาหารคาว-หวาน ที่ไม่รู้จักชื่ออีกมากมาย
“คนใต้ใจดี”
ไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด
หลังจากที่พยายามเก็บภาพบรรยากาศในงานให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และคนขายแถวนั้นก็พากันเข้าใจผิด
คิดว่าเราเป็นตากล้องพวกทำหนังสือแนะนำร้านอาหารตาม Magazine ต่างๆ
ด้วยความที่ถ่ายรูปแบบชัตเตอร์รัว มุมนู้นนี่นั่นตลอดเวลา ยิ่งกว่าถ่ายทำสารคดีตามติดชีวิตแม่ค้าเสียอีก
“หนูๆ
ถ่ายร้านป้าด้วยสิ” ประโยคฮิตในเวลานั้นเลยทีเดียว
พร้อมต่างพากันให้ชิมนู้นนี่นั่น อืม...มมมม...ม แอบคิด
มาถ่ายทำร้านอาหารมันก็ดีเหมือนกันนะ ได้ชิมอาหารเกือบทุกร้านเลยแฮะ
(นั่นเป็นเรื่องราวของเมื่อปีที่แล้ว มาในปีนี้ร้านหมูย่างเมืองตรัง “ป้ากุ้ง”
คนที่เราถ่ายรูปร้านเค้าเอาไปทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารเมื่อปีก่อน---
แกจำเราได้ด้วย --- แอบดีใจที่แกจำเราได้แต่ก็โดนค่าหมูย่างมาอีก 1
กล่องติดไม้ติดมือกลับมาบ้านอย่างสบายใจ ก็ช่วยอุดหนุนในฐานะจากคนแปลกหน้ามาเป็นคนรู้จัก)
ร้านแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่เคยเดินที่สมาคมชาวปักษ์ใต้และไม่รู้ว่าควรจะแวะร้านไหนดี
ซึ่งร้านค้าที่อยู่ภายในสมาคมจะเป็นร้านชื่อเดิมและตั้งตำแหน่งเดิมในทุกๆ ครั้ง
ไม่ต้องกลัวหลงทางหรือหาร้านไม่เจอ (ถ้าเคยมาแล้ว) ร้านอาหารชาวปักษ์ใต้ที่จะแนะนำคือ
“ร้านป้าสวย อาหารปักษ์ใต้”
รสชาติเข้มข้นของแกงเนื้อและแกงเผ็ดต่างๆ ข้นจนต้องหาแก้วน้ำ เตรียมไว้ข้างๆ
เลยทีเดียว (แต่ด้วยความอร่อย
เชื่อว่ายังไงซะก็ต้องกินหมดจานอย่างแน่นอน...กินเหลือก็เสียของนะนั่น)
ถ้าเป็นคนโปรดปรานอาหารรสจัดแบบเข้มข้นเผ็ดซ่านสไตล์คนใต้แล้วล่ะก็
รับรองไม่ผิดหวังจากการมาฝากท้องที่สมาคมแห่งนี้แน่นอน แม้การจัดงานใน 1 ปี
จะมีแค่ 1 อาทิตย์ และใน 1 อาทิตย์อาจมาได้แค่เพียง 1 วัน
แต่เชื่อว่าหลายคนที่ต่างเฝ้ารออาหารแปลกๆ และหากินได้ยากเหล่านี้
คงจะมาที่นี่ทุกครั้ง...เหมือนเรานี่ไง อย่างน้อยก็ 1 คน
ป.ล.
การพัฒนาต่อมรับรสทางลิ้นของคนเรา มันก็มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ไวมาก
จำได้ว่าปีที่แล้วยังกินอะไรได้ไม่เท่าไร ปีนี้ซัดเรียบแบบไม่แตะแก้วน้ำที่วางด้านข้างได้....เก่งมากทาเคชิ!!!
ขอจบทริปนี้แบบมีสาระหน่อยละกัน
ประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นงานบุญประเพณีของคนภาคใต้ ของประเทศไทย โดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราช ที่ได้รับอิทธิพลด้านความเชื่อซึ่งมาจากทางศาสนาพราหมณ์โดยมีการผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเข้ามาในภายหลัง โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากนรกที่ตนต้องจองจำอยู่เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากนรกในทุกวันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์โดยมีจุดประสงค์ในการมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้อง ที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นก็จะกลับไปยังนรก ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10
ช่วงระยะเวลาในการประกอบพิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบจะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำถึงแรม 15 ค่ำเดือนสิบของทุกปีแต่สำหรับวันที่ชาวใต้มักจะ นิยมทำบุญกันมากคือวันแรม 13-15 ค่ำ ประเพณีวันสารทเดือนสิบโดยในส่วนใหญ่แล้วจะตรงกับเดือนกันยายน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : วิกิพีเดีย
ดูรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://warawan.multiply.com/photos/album/17/17
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)